เจดีย์ชเวดากอง
เจดีย์ชเวดากอง แปลว่า เจดีย์ทองคำแห่งเมืองตะเกิง ตั้งอยู่บนเนินเขาเชียงกุตตระ สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมเมือง เป็นมหาธาตุสำคัญของเมืองย่างกุ้ง สูงประมาณ 48 เมตร กว้างโดยประมาณ 105 เมตร ด้านล่างรอบๆ เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำนวนมาก มีไม้แกะสลักประดับอยู่อย่างสวยงาม และยอดบนของเจดีย์ประดับด้วยเพชรที่กล่าวกันว่ามีขนาดเท่าฝ่ามือคน
ตำนานของการสร้างเจดีย์ชเวดากองเกิดขึ้นจากพ่อค้ามอญ 2 คน คือ ตปุสสะและภัลลิกะ ที่เลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้า จากการที่ได้เข้าเฝ้าถวายข้าวสัตตูและถวายตัวเป็นปฐมอุบาสก ก่อนจะจากมาได้ขอให้พระพุทธองค์ประทานสิ่งใดให้เป็นอนุสรณ์เพื่อใช้ศักการะ บูชาแทนพระองค์ พระพุทธเจ้าจึงประทานพระเกศาจำนวน 8 เส้นให้ เมื่อพ่อค้าสองคนนี้กลับมาจึงได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระเกศาบนเนินเขาตะเกิง และตั้งชื่อว่า เจดีย์พระเกศาธาตุ
ฐานของเจดีย์ทำจากอิฐปกคลุมด้วยแผ่นทอง ด้านบนเป็นฐานเจดีย์ลาดแบบขั้นบันได มีเพียงพระภิกษุและผู้ชายเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปได้ ถัดไปด้านบนเป็นส่วนองค์ระฆัง รัดอกคาดองค์ระฆัง บาตรคว่ำ บัวคอเสื้อลวดลายดอกไม้ห้อย ปล้องไฉน กลีบบัวคว่ำ แถบกลม กลีบบัวหงาย ปลัยอด ฉัตร ธงใบพัดและลูกแก้วหรือหยากน้ำค้าง ประกอบด้วยเพชร 5,448 เม็ด และทับทิม 2,317 เม็ด บนสุดเป็นเพชรปลายแหลมหนัก 76 กะรัต
กษัตริย์พม่าและกษัตริย์มอญหลายพระองค์ได้บูรณะเจดีย์แห่งนี้เรื่อยมา ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 20 และเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้นหลายครั้ง ทำให้ภาครัฐต้องจัดทำโครงพิเศษเพื่อเสริมยอดเจดีย์ให้แข็งแรงขึ้น และประชาชนทั่วประเทศได้ช่วยกันบริจาคเงินทองเพื่อบูรณะเจดีย์ การปฏิบัติเช่นนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเมื่อพระนางเชงสอบูได้บริจาคทองเท่าน้ำหนักตัวพระองค์ในการบูรณะเจดีย์ การบูรณะแต่ละครั้งจึงทำให้เจดีย์ชเวดากองรุ่งโรจน์ และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมมักจะเดินตามเข็มนาฬิกาวนรอบพระเจดีย์ และต้องถอดรองเท้าทุกครั้งที่เข้าชม โดยเริ่มต้นที่ทิศตะวันออกซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระกกุสันทพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระองค์แรกในภัทรกัปนี้ ถัดไปเป็นทิศใต้ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระโกนาคมนพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สองในภัทรกัปนี้ ถัดไปทิศตะวันตกเป็นศาลของพระกัสสปพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สามในภัทรกัปนี้ สุดท้ายทางทิศเหนือเป็นของพระโคตมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ฐานข้อมูขศิลปกรรมในเอเชียอาคเนย์ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร. (ม.ป.ป.).
เจดีย์ชเวดากอง. ค้นเมื่อ 23 ตุลาคม 60, จาก http://art-in-sea.com/th/data/myanmar-
art/myanmar-art/ศิลปะมอญ/category/113-shwedagon.html
![]() |
เจดีย์ชเวดากอง ที่มา : https://www.wonderfulpackage.com/uploads/article/myanmar1.jpg?v=331 |
ตำนานของการสร้างเจดีย์ชเวดากองเกิดขึ้นจากพ่อค้ามอญ 2 คน คือ ตปุสสะและภัลลิกะ ที่เลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้า จากการที่ได้เข้าเฝ้าถวายข้าวสัตตูและถวายตัวเป็นปฐมอุบาสก ก่อนจะจากมาได้ขอให้พระพุทธองค์ประทานสิ่งใดให้เป็นอนุสรณ์เพื่อใช้ศักการะ บูชาแทนพระองค์ พระพุทธเจ้าจึงประทานพระเกศาจำนวน 8 เส้นให้ เมื่อพ่อค้าสองคนนี้กลับมาจึงได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระเกศาบนเนินเขาตะเกิง และตั้งชื่อว่า เจดีย์พระเกศาธาตุ
![]() |
ที่มา : https://i.ytimg.com/vi/9Y1mBmC7Ch8/maxresdefault.jpg |
ฐานของเจดีย์ทำจากอิฐปกคลุมด้วยแผ่นทอง ด้านบนเป็นฐานเจดีย์ลาดแบบขั้นบันได มีเพียงพระภิกษุและผู้ชายเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปได้ ถัดไปด้านบนเป็นส่วนองค์ระฆัง รัดอกคาดองค์ระฆัง บาตรคว่ำ บัวคอเสื้อลวดลายดอกไม้ห้อย ปล้องไฉน กลีบบัวคว่ำ แถบกลม กลีบบัวหงาย ปลัยอด ฉัตร ธงใบพัดและลูกแก้วหรือหยากน้ำค้าง ประกอบด้วยเพชร 5,448 เม็ด และทับทิม 2,317 เม็ด บนสุดเป็นเพชรปลายแหลมหนัก 76 กะรัต
กษัตริย์พม่าและกษัตริย์มอญหลายพระองค์ได้บูรณะเจดีย์แห่งนี้เรื่อยมา ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 20 และเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้นหลายครั้ง ทำให้ภาครัฐต้องจัดทำโครงพิเศษเพื่อเสริมยอดเจดีย์ให้แข็งแรงขึ้น และประชาชนทั่วประเทศได้ช่วยกันบริจาคเงินทองเพื่อบูรณะเจดีย์ การปฏิบัติเช่นนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเมื่อพระนางเชงสอบูได้บริจาคทองเท่าน้ำหนักตัวพระองค์ในการบูรณะเจดีย์ การบูรณะแต่ละครั้งจึงทำให้เจดีย์ชเวดากองรุ่งโรจน์ และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม
![]() |
เจดีย์ชเวดากอง ที่มา : http://image.vovworld.vn/w730/uploaded/nguyenyen/2015_09_18/mianma.jpg |
ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมมักจะเดินตามเข็มนาฬิกาวนรอบพระเจดีย์ และต้องถอดรองเท้าทุกครั้งที่เข้าชม โดยเริ่มต้นที่ทิศตะวันออกซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระกกุสันทพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระองค์แรกในภัทรกัปนี้ ถัดไปเป็นทิศใต้ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระโกนาคมนพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สองในภัทรกัปนี้ ถัดไปทิศตะวันตกเป็นศาลของพระกัสสปพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สามในภัทรกัปนี้ สุดท้ายทางทิศเหนือเป็นของพระโคตมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
อ้างอิง
เจดีย์ชเวดากอง. ค้นเมื่อ 23 ตุลาคม 60, จาก http://art-in-sea.com/th/data/myanmar-
art/myanmar-art/ศิลปะมอญ/category/113-shwedagon.html
ระวิน แพงจันทร์. (2547). คู่มือนักเดินทางฉบับพกพาเมียนมาร์. กรุงเทพฯ: อทิตตา พริ้นติ้ง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2560). เจดีย์ชเวดากอง. ค้นเมื่อ 23 ตุลาคม 60,
จาก https://th.wikipedia.org/ wiki/เจดีย์ชเวดากอง
จาก https://th.wikipedia.org/ wiki/เจดีย์ชเวดากอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น