พระมหามัยมุนี
ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้าจันทสุริยะ กษัตริย์แห่งยะไข่เมืองธัญญวดี โปรดให้สร้างพระมหามัยมุนี ซึ่งแปลว่า มหาปราญช์ เนื่องจากพระพุทธเจ้ามาเข้าพระสุบิน โปรดให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นเพื่อเชิดชูศาสนาให้รุ่งเรือง สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 688 หรือเกือบสองพันปีมาแล้ว การสร้างพระมหามัยมุนีสร้างขึ้น 3 ครั้ง และสำเร็จครั้งที่ 3 เนื่องจากมีความเชื่อว่ามีเทวดาจำแลงตนมาเททองให้จนประสบความสำเร็จ
 |
| ที่มา : https://travel.mthai.com/app/uploads/2013/12/พระมหามัยมุนี.jpg |
ชาวพม่าเชื่อว่าพระมหามัยมุนีเป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิต เนื่องจากพระพุทธเจ้าได้มาประทานลมหายใจเข้าไปในพระพุทธรูปองค์นี้ พระมหามัยมุนีจึงเป็นดังตัวแทนของพระพุทธองค์ที่มีชีวิตจิตใจ พระมหามัยมุนีเป็นพระพุทธรูปทองสำริด ปางมารวิชัยทรงเครื่อง หน้าตักกว้าง 9 ฟุต สูง 12 ฟุต ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ “วัดมหามัยมุนี”
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความวิจิตรงดงามของพระมหามัยมุนี จึงทำให้เป็นที่หมายปองของกษัตริย์พม่าหลายพระองค์ ที่ต้องการย้ายท่านมาประดิษฐาน ณ เมืองของตน แต่ก็ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดทำสำเร็จ จนกระทั่งมาถึงสมัยพระเจ้าปดุง จึงสามารถอันเชิญพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑะเลย์ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2327
ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่า ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ในหนังสือ “สู่ลุ่มอิรวดี” ว่า ผลจากการอันเชิญพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์สำเร็จ ทำให้พระองค์มีความฮึกเหิมกว่ากษัตริย์พม่าในอดีตที่ผ่านมา พระเจ้าปดุงจึงยกทัพมาตีกรุงรัตนโกสินทร์สองครั้ง แต่ก็พ่ายแพ้ไปทั้งสองครั้ง
ในแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชินจากทั่วสารทิศไปกราบไหว้บูชาพระมหามัยมุนี โดยผู้ชายสามารถขึ้นไปปิดทองหลังองค์พระได้อย่างใกล้ชิด แต่ห้ามปิดบริเวณหน้าองค์พระ ส่วนผู้หญิงให้ศักการะบูชาได้ใกล้สุดประมาณ 10 เมตร หากต้องการปิดทองหลังองค์พระ ให้ฝากผู้ชายขึ้นไปได้ และในทุกๆวัน จะมีพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลว่า พระมหามัยมุนีมีชีวิต มีลมหายใจ จึงต้องจัดพิธีล้างหน้า แปรงฟันให้พระมหามัยมุนีเหมือนคนทั่วไปในทุกเช้า
ปิ่น บุตรี. (2556). “พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า. ค้นเมื่อ 24 ตุลาคม 60, จาก http://www.manager.co.th/travel/viewnews.aspx?NewsID=9560000084916
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความวิจิตรงดงามของพระมหามัยมุนี จึงทำให้เป็นที่หมายปองของกษัตริย์พม่าหลายพระองค์ ที่ต้องการย้ายท่านมาประดิษฐาน ณ เมืองของตน แต่ก็ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดทำสำเร็จ จนกระทั่งมาถึงสมัยพระเจ้าปดุง จึงสามารถอันเชิญพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑะเลย์ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2327
 |
| ที่มา : http://i.imgur.com/xBuGzf9.jpg |
ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่า ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ในหนังสือ “สู่ลุ่มอิรวดี” ว่า ผลจากการอันเชิญพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์สำเร็จ ทำให้พระองค์มีความฮึกเหิมกว่ากษัตริย์พม่าในอดีตที่ผ่านมา พระเจ้าปดุงจึงยกทัพมาตีกรุงรัตนโกสินทร์สองครั้ง แต่ก็พ่ายแพ้ไปทั้งสองครั้ง
ในแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชินจากทั่วสารทิศไปกราบไหว้บูชาพระมหามัยมุนี โดยผู้ชายสามารถขึ้นไปปิดทองหลังองค์พระได้อย่างใกล้ชิด แต่ห้ามปิดบริเวณหน้าองค์พระ ส่วนผู้หญิงให้ศักการะบูชาได้ใกล้สุดประมาณ 10 เมตร หากต้องการปิดทองหลังองค์พระ ให้ฝากผู้ชายขึ้นไปได้ และในทุกๆวัน จะมีพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลว่า พระมหามัยมุนีมีชีวิต มีลมหายใจ จึงต้องจัดพิธีล้างหน้า แปรงฟันให้พระมหามัยมุนีเหมือนคนทั่วไปในทุกเช้า
อ้างอิง
บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวน์ จำกัด. (ม.ป.ป.). เที่ยวพม่า...วัดพระมหามัยมุนี. ค้นเมื่อ 24 ตุลาคม 60, จาก http://www.oceansmile.com/Phama/Pramahamunee.htmปิ่น บุตรี. (2556). “พระมหามัยมุนี” พระพุทธรูปมีชีวิต มหาศรัทธาแห่งพม่า. ค้นเมื่อ 24 ตุลาคม 60, จาก http://www.manager.co.th/travel/viewnews.aspx?NewsID=9560000084916
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น